ระบบนี้มุ่งไปในทางใด สร้างความหลากหลายให้แก่เศรษฐกิจของท้องถิ่น เสริมสร้างสังคมให้เป็นปึกแผ่น หรือให้ความรู้แก่สมาชิกของชุมชน เราจะใช้ดรรชนีใดวัดความสำเร็จของระบบ

ชุมชนนั้นสามารถกำหนดได้โดยไม่เพียงแต่จะใช้อาณาเขตทางภูมิศาสตร์เท่านั้น ความผูกพันทางสังคมและทางเศรษฐกิจก็สามารถเป็นตัวกำหนดได้เช่นกัน

สมาชิกจะเข้าร่วมในลักษณะใด เป็นรายบุคคล เป็นครัวเรือน หรือเป็นองค์กร เด็กจะเป็นสมาชิกได้หรือไม่ มีค่าธรรมเนียมในการเข้าเป็นสมาชิกหรือไม่ ข้อตกลงระหว่างผู้ถือบัญชี ( รายละเอียดกล่าวไว้ในหัวข้อที่ 6 ) อาจเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน

ถึงแม้ว่าการออกแบบคูปองนั้นหากกระทำในช่วงสุดท้ายของกระบวนการปฎิบัติงานนั้นจะดูสมเหตุผลกว่า แต่เราก็ไม่ควรจะมองข้ามความสำคัญทางด้านจิตวิทยาของคูปอง ในฐานะสิ่งระดมจิตใจของชุมชน

มีข้อโต้แเย้งแตกต่างกันไปถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้มาตรฐานดังกล่าว ระบบทั่วโลกนั้นมีวิธีกำหนดมูลค่าคูปองหลายวิธี ผูกมูลค่าคูปองเข้ากับเงินตราประเทศบ้าง กำหนดให้คูปองมีมูลค่าเท่ากับหนึ่งชั่วโมงงานบ้าง หรือกำหนดให้คูปองมีมูลค่าในตัวเองโดยไม่เทียบเท่ากับมาตรฐานใดๆบ้าง คณะกรรมการเตรียมการดำเนินงานควรจะหารือกันถึงข้อโต้แย้งเหล่านี้ และตัดสินใจตามความเหมาะสมกับสภาวะการณ์ในท้องถิ่น

ถ้าจะให้ดีที่สุด ชื่อคูปองควรจะมาจากสิ่งคุ้นเคย ซึ่งสร้างความมั่นใจและความภาคภูมิใจให้แก่สมาชิกของชุมชน

คูปองควรจะมีขนาดใกล้เคียง ( แต่ไม่เหมือนเสียทีเดียว ) กับเงินตราของประเทศ และพกใส่กระเป๋าสตางค์ได้สะดวก มีรูปแบบเป็นการเป็นงาน และน่าจะมีภาพของพืชพรรณ สัตว์ หรือผู้คนภายในท้องถิ่นมาประกอบด้วย

คูปองซึ่งพิมพ์หลากสีบนกระดาษที่มีเนื้อเยื่อมากนั้นจะปลอมได้ยากกว่า ควรกำกับเลขหมายกำกับบนคูปองที่พิมพ์เสร็จแล้ว โดยมีพยานในขณะกำกับเพื่อรับรองความโปร่งใส ตัวเลขน้อยๆจะดีกว่า เพื่อมิให้สมาชิกชุมชนที่ใช้คูปองหวั่นเกรงว่าจะมีคูปองออกใช้ในชุมชนอย่างไม่จำกัดจำนวน ( คูปองชุดที่พิมพ์เป็นครั้งแรกหรือมีเลขหมายเป็นมงคลนั้นสามารถเก็บไว้ใช้ในกิจกรรมต่างๆเพื่อระดมทุนได้ ) นอกจากนี้ ขณะมอบคูปองให้แก่สมาชิกชุมชนนั้น อาจมีการประทับวันที่และลงนามกำกับโดยเหรัญญิก สีตราวันที่นั้นอาจเปลี่ยนไปทุกๆเดือนเพื่อเป็นหลักประกันเสริมต่อการปลอมแปลงคูปอง

จะต้องมีการตัดสินใจว่าจะจัดพิมพ์คูปองเหล่านี้ในหน่วยใดบ้าง เป็นจำนวนเท่าใด หน่วยคูปองไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบของหน่วยเงินตราประเทศ เพราะคูปองเหล่านี้เป็นสมบัติของชุมชน หลังจากการพิมพ์เบื้องต้น ควรจะมีการทดสอบความคงทนของคูปอง โดยนำคูปองจำนวนหนึ่งไปทดสอบ ‘ ซักรีด ’ แน่นอนว่าธนบัตรที่สึกหรอจนเกินใช้ ขาด หรือเสียหายด้วยเหตุใดก็ตาม จะสามารถนำไปแลกเป็นธนบัตรใบใหม่ได้ที่ธนาคารคูปอง (ตราบเท่าที่เลขกำกับธนบัตรนั้นยังชัดเจน )

ควรบันทึกการจัดสรรคูปอง เพื่อให้สมาชิกชุมชนได้เห็นว่ามีการผลิตคูปองเป็นจำนวนเท่าใด ออกใช้เป็นจำนวนเท่าใด และออกให้แก่ผู้ใดบ้าง อันจะช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงความแคลงใจในอนาคตว่าคณะกรรมการบริหารกระทำการทุจริต

กรรมการจากคณะกรรมการเตรียมการดำเนินงานชุดเดิม หรือสมาชิกอื่นๆของชุมชนก็ได้ ควรจัดตั้งคณะกรรมการบริหารระบบคูปอง โดยจะต้องตัดสินใจว่าตำแหน่งเหล่านี้จะเป็นตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้งหรือการอาสาสมัคร จะเป็นตำแหน่งถาวรหรือหมุนเวียน ค่าตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นคูปองชุมชน หรือเงินตราประเทศนั้น จำเป็นหรือไม่ ตำแหน่งคณะกรรมการที่ปรึกษาหรือผู้ตรวจสอบอาจมีความจำเป็น แต่ไม่เสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นของคณะกรรมการเตรียมการดำเนินงาน

เจ้าหน้าที่จัดการระบบเป็นผู้รับผิดชอบให้ปฏิบัติการของระบบทั้งระบบสัมฤทธิ์ผล โดยหารือกับคณะกรรมการบริหารนั้น …

• เจ้าหน้าที่จัดการมีสิทธิที่จะปฏิเสธผู้สมัครเหรือเพิกถอนการเป็นสมาชิก
• เจ้าหน้าที่จัดการจะต้องดูแล ไม่ให้มีการหากำไรจากธุรการของระบบ
• ในฐานะผู้จัดการธนาคารคูปอง เจ้าหน้าที่จัดการจะเป็นผู้อนุมัติสินเชื่อหรือทุนช่วยเหลือพิเศษ
• หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ให้ถือการตัดสินของเจ้าหน้าที่จัดการเป็นเด็ดขาด

เจ้าหน้าที่ประสานงานการบันทึก มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลทั้งบัญชีย่อยของแต่ละสมาชิกและยอดคงเหลือในบัญชีรวมของระบบ

• เจ้าหน้าที่ประสานงานการบันทึก สามารถมอบหมายให้ผู้ช่วยหรืออาสาสมัครเป็นผู้ทำบัญชี ได้ แต่จะต้องรับผิดชอบให้บัญชี และงบดุลถูกต้อง และแม่นยำ
• เจ้าหน้าที่ประสานงานควรจะให้ความช่วยเหลือแก่องค์กรที่เข้าร่วมในระบบ ในการปรับเปลี่ยนวิธีการทำบัญชีตามความจำเป็น อันเกิดจากการเข้าร่วมระบบคูปอง
• เจ้าหน้าที่ประสานงานจะเป็นผู้กำหนดค่าธรรมเนียมต่างๆ โดยหารือกับเจ้าหน้าที่จัดการระบบและคณะกรรมการบริหารระบบ

เจ้าหน้าที่ประสานงานการบันทึกนี้จะเป็นอาสาสมัครหรือรับค่าตอบแทนเป็นคูปองชุมชนก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนของสมาชิกและค่าธรรมเนียมที่สามารถจัดเก็บได้

เจ้าหน้าที่พัฒนาระบบ มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างให้ระบบแข็งแกร่งโดย

• ช่วยเหลือสมาชิกปัจจุบันในการใช้จ่ายคูปองที่หามาได้
• รับสมาชิกใหม่ โดยหวังที่จะ ขยายพื้นฐานของความชำนาญและทรัพยากร ในขณะเดียวกัน
• จำแนก และพัฒนาโอกาสของการทำธุรกิจขนาดเล็ก
• ให้ความรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับการพึ่งพาตนเองและการเสริมสร้างอำนาจ
• เชื่อมชุมชนเข้ากับโครงการที่คล้ายคลึงกันทั้งในระดับประเทศและในระดับโลก

ในระยะเริ่มต้น การว่าจ้างบุคลากรเพื่อปฎิบัติงานในตำแหน่งนี้อย่างเต็มเวลาอาจสนองความต้องการได้ดีกว่า เมื่อระบบมีแรงผลักดันมากขึ้น ภาระของเจ้าหน้าที่พัฒนาก็น่าจะลดลงได้

ผู้จัดการส่งเสริม เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำสื่อและจัดงาน เพื่อส่งข่าวสารต่างๆให้แก่สมาชิก และ กระตุ้นให้สมาชิกมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับปฏิบัติการของระบบคูปอง

• ในระยะเริ่มแรก ผู้จัดการส่งเสริมจะมีหน้าที่จัดทำจุลสารเพื่อส่งถึงสมาชิกใหม่ ซึ่งลง สรุปนโยบายของระบบ ข้อตกลงของผู้ถือบัญชี และรายชื่อสินค้าและการบริการซึ่งสมาชิกสามารถใช้คูปองแลกได้
• ผู้จัดการนี้จะมีส่วนร่วมใน การจัด ‘ งานเปิด’ เพื่อ สร้างความสนใจ และเริ่มการใช้คูปอง คณะกรรมการเตรียมการดำเนินงานควรจะเริ่มไตร่ตรองว่า จะทำอย่างไรให้ชาวบ้านจะยอมรับคูปองเป็นทางเลือกจากการใช้เงินตราประเทศ

หน้าที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่องนั้นรวมถึง

• การซ่อมบำรุง ป้ายรายชื่อ หรือป้ายติดประกาศซึ่งแสดงรายการสินค้าและการบริการที่มีอยู่เพื่อแลกเปลี่ยนในระบบ
• การจัดทำสื่อเพื่อใช้ในการรณรงค์เช่น ใบประกาศ หรือ แผ่นพับ
• การทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาระบบเพื่อจัดทำสื่อซึ่งแสดงถึงประสบการณ์การค้าและผลกระทบที่ดี จากระบบ